พิพิธภัณฑ์และการแสดงวิถีชีวิตของชาวไทยพวน ได้รับการจัดตั้งในช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ. 2540 ที่ส่งเสริมการปกครองในระดับท้องถิ่น หนึ่งในบทบาทสำคัญคือ
“การทำนุศิลปวัฒนธรรม” องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นหลายแห่งจัดตั้งสถานที่ ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์หรือศูนย์วัฒนธรรมเพื่อบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของชุมชน รวบรวมข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน และจัดงานประเพณีที่ให้คำนิยามว่า “เป็นการสืบสานวัฒนธรรม”
ปัจจุบันนั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีการยกพื้นสูงเป็นใต้ถุนสำหรับใช้ประโยชน์ด้านล่างเหมือนเรือนพื้นถิ่น มีอาคารขึ้นจากฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของอาคาร การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และการแสดงวิถีชีวิตไทยพวน บ้านป่าแดง เพื่อ “ให้ลูกหลานได้ดู” จึงอาศัยข้อมูลจากคนเฒ่าคนแก่ภายในชุมชนจำลองเป็นรูปปั้นแสดงวิถีชีวิตในอดีต ซึ่งคนไทยพวนในตำบลหนองพยอมนั้นเคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดลพบุรีราวร้อยปีที่แล้ว ในระยะแรกนั้น มาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางคลองห้วยเกตุและมีเพียง 6-7 ครัวเรือนเท่านั้น ในปัจจุบัน มีสมาชิกถึง 800 หลังคาเรือน ด้วยเหตุนี้เอง นอกเหนือจากฉากจำลองวิถีชีวิตเพื่อเล่าประวัติของชุมชนแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังได้เก็บรวบรวมวัสดุพื้นบ้าน ทั้งการหาปลา การเกษตร การทอผ้า และผ้าทอที่ยาวที่สุด และการละเล่นในอดีตไว้ด้วยตั้งอยู่ที่ เทศบาลตำบลหนองพยอม 99 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองพยอม อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
สภาพการจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์
แม้สิ่งจัดแสดงได้รับการเคลื่อนย้ายมาจากตำแหน่งเดิม ซึ่งเป็นห้องประชุมในปัจจุบัน แต่พอบอกเล่าเรื่องราวของคนไทยพวน ตำบลหนองพยอมได้ไม่มากก็น้อย จุดเด่นสำคัญคือ หุ่นจำลอง ที่ประกอบด้วยฉากตอนสำคัญ ทั้ง 5 ฉาก ได้แก่
- ฉากของหญิงทอผ้าและปั่นฝ้าย ผ้าทอในตำบลหนองพยอมนับเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของชุมชนจนมีชื่อเสียงและเป็นที่เรียกกันติดปากว่า “ผ้าทอป่าแดง” ในฉากดังกล่าว ยังมีผ้าที่ทอเป็นผืนยาวและม้วนไว้ขนาดใหญ่ที่กลุ่มแม่บ้านในชุมชนร่วมกันทอเป็นผ้าทอยาวที่สุดในโลก (1,939 เมตร) ตามโครงการ “ทอผ้าป่าแดง พัสตราภรณ์ 1939”
- ฉากการรักษาพื้นบ้าน ที่กล่าวถึงหมอยาต้ม หมอฝนยา หมอยาต้ม และหมอนวด ที่เคยมีบทบาทสำคัญในชุมชน นำเสนอด้วยหุ่นชายเปลือยท่อนบน นั่งฝนยาอยู่บนแคร่
- ฉากการละเล่นพื้นบ้าน รูปแสดงด้วยเด็ก ๆ สามคน เล่นม้าก้านกล้วย โดยมีผูกจุกไว้ และใกล้กับฉากหญิงปั่นฝ้าย ยังปรากฏเด็กน้อยมีอีกคนหนึ่งที่เดินบนกะลา
- ฉากครอบครัว พ่อ แม่ และลูก นั่งสนทนากันบนแคร่
- ฉากร่อนเปลือกข้าว หญิงแต่งกายด้วยซิ่นและเสื้อคอกระเช้า ถือกระด้งร่อนเปลือกข้าว ใกลกันนั้นมีอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำนา เช่น สีฝัด ไสะข้าว” สำหรับสาดเปลือกข้าวแยกออกจากเม็ดข้าว ครกไม้และสากตำข้าว
จากฉากการจัดแสดงหลัก สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้รับการจัดไว้เป็นหมวดหมู่บนชั้นเหล็กและในตู้ไม้บานกระจก โดยพอจะแบ่งเป็นหมวดต่าง ๆ ประกอบด้วย เครื่องจักสาน เช่น หวดที่ใช้นึ่งข้าวเหนียว อุปกรณ์ทอผ้า และทอเสื่อเช่น ฟืม เครื่องปั้นดินเผา เช่น เต้าปูน เครื่องไม้ เช่น เชี่ยนหมากและแอกวัวควาย เครื่องหิน เช่น โม้หิน เครื่องกระเบื้อง เช่น แจกัน คนโทน้ำ เครื่องแก้ว เช่น ขวดน้ำทรงกระบอกสูงราวฟุตครึ่ง ปากแคบ และมีมุมหนึ่งจัดเป็นฉากที่มีจระเข้ที่อยู่บนพื้นกรวด โดยมีเครื่องปั้นดินเผาวางเรียงรายเป็นฉากหลัง